เที่ยววัดกับขุนอภัยภักดี # ๖๕ กราบหลวงพ่อสม สุชีโว วัดโพธิ์ทอง จ.อ่างทอง
สวัสดีสมาชิกทุกท่านวันนี้มาทำหน้าที่เหมือนเดิมครับมีโอกาสเดินทางไปอ่างทองวัดโพธิ์ทอง จึงหาเวลาไปวัดและที่ตั้งใจไว้หลายครั้งแล้วว่าจะเข้าไปกราบหลวงพ่อสม สุชีโว ที่วัดโพธิ์ทองตามคำแนะนำของน้องแถวบ้านโดยทีแรกตั้งใจว่าจะไปสองวัดคือวัดโพธิ์ทอง และจะไปไหว้หลวงพ่อชวน ที่วัดเขาแก้วแต่เนื่องด้วยมีข้อจำกัดเรื่องเวลาวันนั้นจึงได้ไปแค่วัดเดียวไม่สามารถไปวัดเขาแก้วได้จึงขอเอาไว้โอกาสหน้าหากมีเวลาจะนำเอาภาพบรรยากาศมาฝากครับ
สำหรับวันนี้เอาวัดเดียวก่อน
วัดโพธิ์ทองไม่มีประวัติความเป็นมามากสักเท่าไรรู้แต่เพียงว่าในพระราชพงศาวดารในแผ่นดินพระที่นั่งสุริยามรินทร์
เจ้าฟ้าอุทุมพร หรือ กรมขุนพรพินิต หรือเรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่าขุนหลวงหาวัด
ซึ่งเป็นพระอนุชาของสมเด็จพระที่นั่งสุริยามรินทร์ ได้เสด็จออกทรงผนวช ณ
วัดโพธิ์ทอง ตำบลคำหยาด และทรงสร้างตึกประทับร้อนเรียกว่า ตึกคำหยาดขึ้นด้วย
ปัจจุบันวัดโพธิ์ทองและตึกคำหยาด ก็ยังมีอยู่ในท้องที่ตำบลคำหยาด อำเภอโพธิ์ทอง
ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พ.ศ. 2451 คราวเสด็จประพาสลำน้ำมะขามเฒ่า ได้เสด็จไปอำเภอวิเศษชัยชาญ ตึกคำหยาดและวัดขุนอินทประมูลด้วย
ปัจจุบัน
"วัดโพธิ์ทอง" ตั้งอยู่ที่ ต.คำหยาด อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง มี
"หลวงพ่อสม สุชีโว" หรือ "พระครูโสภณสิริธรรม"
เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ทองเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง อีกทั้งยังเป็นแพทย์แผนโบราณ
เป็นพระนักการศึกษา พระนักปกครอง และพระนักพัฒนา พร้อมกันไป
ชื่อเสียงของหลวงพ่อสมจึงได้ขจรขจายไปทั้งเมืองอ่างทอง
เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านโดยทั่วไป
อัตโนประวัติ
มีนามเดิมว่า สม พรหมทอง เกิดเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2473 บิดา-มารดา ชื่อ นายหวล และนางละมาย พรหมทอง เกิดที่บ้านบางลำพู ข้างวัดสังเวชวิศยาราม
เขตพระนคร กรุงเทพฯ ท่านเป็นบุตรชายคนโต ช่วงเกิดสงครามโลก
ทั่วพระนครภัยพิบัติไปทั่ว ทำให้ครอบครัวพรหมทองได้รับความเดือดร้อน
จึงอพยพครอบครัวไปตั้งรกรากอยู่ที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ด้วยความที่
บิดามีความสนิทสนมกับสม ภารวัดที่อยู่ใกล้กับบ้าน คือ หลวงพ่อทรัพย์
เจ้าอาวาสวัดอินทาราม (วัดตลุก)
จึงได้นำบุตรชายไปฝากให้เป็นลูกศิษย์คอยปรนนิบัติรับใช้ในกิจการต่างๆ
รวมทั้งอบรมสั่งสอนเล่าเรียนวิชาการต่างๆ
จากหลวงพ่อและโรงเรียนประชาบาลที่อยู่ภายในวัดอินทารามชีวิตในวัย
เด็กมีความขยันหมั่นเพียรในการศึกษา จนจบการศึกษาอันเป็นชั้นสูงสุดของโรงเรียน
นอกจากวิชาสามัญในโรง เรียนแล้ว หลวงพ่อทรัพย์ยังได้อบรมสั่งสอนวิชาแพทย์แผนโบราณ
ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เนื่องจากหลวงพ่อทรัพย์เป็นหมอยาไทยที่ มีชื่อเสียง
จะมีผู้คนมาให้ท่านรักษากันมาก จึงมีหน้าที่ปรุงยาไทยให้หลวงพ่อตามใบกำกับยาที่ท่านส่งให้
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ท่านได้สั่งสมความรู้ทางแพทย์แผนโบราณอย่างดี เมื่อ อายุ 17 ปี ย่างเข้าสู่วัยหนุ่ม หลวงพ่อทรัพย์ได้แจ้งกับโยมบิดามารดา
ขอให้ได้เข้าบวชเรียน ท่านจึงได้บรรพชา
ศึกษาเรียนพระปริยัติธรรมที่สำนักเรียนวัดอินทาราม พ.ศ.2490
สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี พ.ศ.2491 สอบได้นักธรรมชั้นโท
นอก จากนี้
ยังได้เรียนวิทยาคมจากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่เดินทางมาอยู่ปริวาสที่วัด อินทาราม
อาทิ หลวงพ่อรุ่งและหลวงพ่อเดิม พระเกจิชื่อดังแห่งวัดหนองโพ จ.นครสวรรค์
หลวงพ่อทรัพย์ได้ฝึกอบรมหลวงพ่อสม ด้วยการให้ท่านเขียนลบเลขยันต์ต่างๆ
ในแผ่นกระดานชนวนอยู่อย่างนั้นนับแรมปี ด้วยสิ่งใดก็ตามเมื่อทำอย่างซ้ำๆ
จะเป็นผลดีในการฝึกจิตแบบอดทน นอกจากนี้
หลวงพ่อสมได้ไปศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติมกับน้าแท้ๆ ของท่าน คือ
หลวงน้าเก็บหรือหลวงพ่อเก็บ แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท
กล่าวได้ว่าหลวงพ่อเก็บเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า
พระเกจิชื่อดัง ครั้งหนึ่ง
หลวงพ่อสมได้มาอยู่กับหลวงน้าของท่านที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า
ได้ตั้งใจศึกษาวิทยาคมสายหลวงปู่ศุขอย่างจริงจัง
จนมีความสำเร็จและมีประสบการณ์ให้ได้เห็นกันในปัจจุบัน
ส่งผลให้วัตถุมงคลที่ท่านได้ร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิตมีความเข้มขลัง
ได้รับการยอมรับจากบรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องเป็นอย่างยิ่ง หลวงพ่อท่านเป็นพระที่สมถะไม่ยึดติดอะไรมากวันที่ผมไปที่วัดท่านยังจำวัดอยู่หน้ากุฏิอย่างไม่มีพิธีรีตองอะไรมาก
ถามพระที่วัดท่านบอกว่าหลวงพ่อชอบนอนแบบนี้ลูกศิษย์สร้างกุฏิให้ท่านใหม่ท่านก็ไม่ชอบท่านชอบของท่านแบบนี้ ซึ่งหลังจากที่ผมได้เดินทางไปกราบท่านได้ไม่นานท่านก็มรณะภาพลงด้วยอาการสงบนับเป็นการสูณเสียพระเกจิอีกท่านของเมืองอ่างทอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น