วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เที่ยววัดกับขุนอภัยภักดี ทริป #๔๒(เที่ยวเมืองนนท์ชมอุโบสถ์วัดโพธิ์บางโอ บางกรวย นนทบุรี)




วันนี้เป็นครั้งที่สามของทริป "เที่ยววัดเมืองนนท์"จะพาไปเที่ยวชมพระอุโบสถ์ที่ทรงคุณค่าด้านศิลปะที่วัดโพธิ์บางโอเป็นวัดเก่าในสมัยอยุธยา ได้รับการบูรณะในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยกรมหลวงเสนีบริรักษ์ (ต้นสกุล เสนีวงศ์) พระโอรสในกรมพระราชวังหลัง พระอุโบสถ์ที่วัดนี้มีพาไลโดยรอบเหมือนที่วัดพระแก้ว ตามที่ได้กล่าวมาแล้วตั้งแต่กระทู้แรกว่านนทบุรีเป็นเมืองเก่าที่มีประวัติยาวนาน และเป็นเส้นทางผ่านไปมาแต่โบราณท่านสุนทรภู่เองยังเคยผ่านทางนี้ซึ่งจะดูได้จากนิราศพระประธมสภาพวัดโดยทั่วไปเหมือนกับวัดทั่วไปที่ไม่มีการบริหารการจัดการทางตลาดในที่นี้หมายถึงเงียบมากๆไม่มีผู้คนพลุกพล่านทั้งที่มีจุดขายน่าเสียดายสมบัติของชาติครับที่ต้องปล่อยให้ผุพังไปตามกาลเวลา  และยิ่งได้รับความเสียหายอย่างมากแน่นอนหลังน้ำท่วมใหญ่ปี พ.ศ. 2554 สภาพโดยรอบยังมีร่องรอยความเสียหายจากน้ำท่วมซึ่งสภาพภายนอกยังได้รับความเสียหายมาก ด้านในคิดว่าคงหนักกว่านี้น่าเสียดายที่วันที่ผมไปไม่สามารถเข้าไปชมความสวยงามภายในและองค์พระประธานได้เนื่องจากทางวัดไม่เปิดประตูให้ชมเลยไม่สามารถเก็บภาพมาฝากได้ แต่ถ้าจะให้คิดคงเสียหายมากจากความชื่น เหมือนวัดทั่วไปที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่
พระอุโบสถทำชายหลังคาของพาไลรอบพระอุโบสถแบบวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หน้าบันสลักไม้รูปนารายณ์ ทรงครุฑลายกนกขมวดเกี่ยวพันกัน เบื้องหลังมีเทพพนมและยักษ์พนม หน้าบันรูปนารายณ์ ทรงครุฑนี่เหมือนกับที่วัดสุทัศน์กรุงเทพซุ้มประตูทางเข้าวัดทำเป็นหัวเม็ด เป็นเสาสี่เหลี่ยมย่อมุม 12 สูงขึ้นและเอนเข้าหากัน เพื่อเป็นการรับน้ำหนักของตัวอาคาร เสาใกล้จะถึงส่วนหลังกำแพงแก้วมีบัวหงายรองรับอีกต่อหนึ่งแปลกตากว่าที่อื่น เป็นศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย ลักษณะ ศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย สังเกตได้จากซุ้มเสมาทรงกลมตลอด ฐานของซุ้มก็ทรงกลมตัวซุ้มแหวะ เป็นช่องหน้าต่างสามช่อง ทรงยอดโค้งคล้ายซุ้มจระนำ (ซุ้มคูหาเล็กๆที่มีหลังคาครอบ ทำยื่นออกมาจากอาคารติดผนังองค์เจดีย์หรือท้ายโบสถ์วิหาร เพื่อตั้งพระพุทธรูป) หันหลังชนกันสามทิศ ข้างบนมียอดเล็กๆ ปั้นปูนลวดลายงดงาม รับกับบัวยอดซุ้มและแข้งสิงห์เบื้องล่างศิลปะรูปปั้นงามนี้เป็นศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลายลักษณะลวดลายบ่งชัดว่าเป็นฝีมือช่าง สมัยพระบรมโกศ





 ใบเสมาเป็นหินทรายทำรูปหัวนาคออกสองข้างเอวเสมาเหมือนกันแต่ทรงด้านบนอวบอ้วน ใบเสมาแบบนี้อายุเก่ากว่าใบเสมาสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ ใบเสมาช่วงหลังจะทรงเพรียวกว่า มีเจดีย์ทิศล้อมรอบตัวพระอุโบสถทั้งสี่ด้าน ซุ้มบันแถลงประดับกรอบประตูหน้าต่างทำจากปูนน้ำอ้อย บานประตูพระอุโบสถทั้งหน้าและหลังมีด้านละสองบาน ปั้นปูนซุ้มประตูเป็นรูปฤาษีพนมและบางซุ้มก็ทำรูปเทวดารำอยู่กลางซุ้ม เข้าใจว่าเป็นฝีมือปฏิสังขรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 3 บานประตูเขียนลายทองรูปกนกใบเทศลายละเอียดมาก บนหน้าต่างก็เขียนลายทอง คือเป็นลายรดน้ำเช่นเดียวกับประตู



ภายในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมแป้งสาคูเปียกฝีมือช่างสกุลนนทบุรี ปัจจุบันชำรุดทรุดโทรมไป แต่กรมศิลปากรกำลังบูรณะอยู่ ภาพระหว่างช่องหน้าต่างเขียนรูปปริศนาธรรม ผนังด้านซ้ายพระประธาน เขียนรูปพระปลงกัมมัฏฐานในลักษณะหลายแบบหลายวิธี ผนังด้านหน้าเขียนรูปพุทธประวัติแสดงถึงพระราชกรณียกิจต่างๆ ของพระพุทธองค์ พระพุทธรูปในพระอุโบสถ ปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 3 เสียดายที่ทางวัดไม่ได้เปิดประตูพระอุโบสถ์ไว้คงเพื่อความปลอดภัยของสมบัติชาติ ที่หน้าพระอุโบสถยังมีรูปสลักหินทำจากเมืองจีน คล้ายเป็นรูปยักษ์รักษาวัด ตนหนึ่งหน้าดุอีกตนหนึ่งหน้ายิ้ม มือถือกระบองด้วยกันทั้งคู่เป็นศิลปะอันงดงามเป็นของประจำวัด ซึ่งตามวัดในอาณาบริเวณแถบนี้ไม่มีภาพสลักชนิดนี้ หอระฆังวัดโพธิ์บางโอ หอระฆังที่วัดนี้เป็นสกุลช่างเมืองนนทบุรีทั้งหมด พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชชนนีเป็นสกุลฝ่ายเมืองนนทบุรี จึงทรงอุปการะการสร้างวัดในเขตนนทบุรี แบบมณฑปยอดเจดีย์ผสมกันระหว่างหอสูงรูปสี่เหลี่ยมและเจดีย์ย่อมุมจิตรกรรมข้างในงามมากครับ โดยเฉพาะบานหน้าต่าง ภาพจับจากเรื่องรามเกียรติ์ยังเหลือสมบูรณ์มาก ส่วนจิตรกรรมฝาผนังคงเหลือเฉพาะสกัดหน้า ระหว่างประตูเท่านั้น นอกจากนี้ก็มีภาพเขียนบนกระจกแบบจีน งามมากเช่นกัน แต่โดนขโมยไปมากแล้ว(ต้องขออภัยภาพหอระฆังอาจจะรกไปด้วยสายโทรศัพท์)



สำหรับวันนี้คงทิ้งไว้แค่นี้ครับ หวังว่ากระทู้ที่ตั้งแต่ละกระทู้คงมีประโยชน์แก่เพื่อนสมาชิกบ้างไม่มากก็น้อย เพื่อปลุกสำนึกในการรักษ์ในศิลปะของชาติและพุทธศาสตร์ที่มุ่งแน้นให้ท่านทั้งหลายรู้เท่าทันเหตุแห่งทุกข์ หากข้อมูลผิดพลาดหรือตกหล่นไปบ้างต้องขออภัยและน้อมรับทุกคำติชม (ช่วงนี้มีเวลาน้อยลงเพราะต้องเตรียมงานประจำปีทอดผ้าป่าสร้างพระถวายวัดในเดือนหน้า) แต่สำหรับกระทู้ชุด " เที่ยววัดเมืองนนท์ กับคนบางกรวย " กระทู้หน้าจะพยายามหาเวลาพาไปชมอุโบสถ์ท้องสำเภา(โบสถ์มหาอุด) ศิลปะอยุธยาและภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามที่วัดปราสาท สุดท้ายขอคุณสมาชิกทุกท่านที่ติดตามกระทู้ขอบคุณ







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น