เที่ยววัดกับขุนอภัยภักดี ทริปที่ # ๑๐๒ วัดโพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว แปดริ้ว

สวัสดีสหายวันนี้ข้าฯขุนอภัยภักดีขอนำสหายผู้ผ่านทางไปชมบรรยากาศจากการค้นประวัติวัดคร่าวๆ วัดนี้อยู่กลางทุ่งหากท่านขับรถอยู่บนถนนหมายเลข 3200 บางน้ำเปรี้ยว-แปดริ้ว จะมองเห็นอุโบสถ์มหาเจดีย์สีทองกับพระพิฆเนศวรแต่ไกล มหาเจดีย์วัดโพรงอากาศนี้สร้างโดยพระอาจารย์สมชาย ในราวปี พ.ศ. 2538 จากการที่ทางต้องเดินทางไปอินเดียบ่อยในช่วงนั้นได้เห็นทัชมาฮาลและด้วยเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาจึงได้ตั้งใจที่จะสร้างมหาเจดีย์นี้ขึ้นมา

ประวัติหลวงพ่อสมชาย วัดโพรงอากาศ องค์นี้เป็นเกจิอาจารย์ที่เก็บตัวเงียบใน อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ท่านได้เริ่มสร้างโบสถ์ใหญ่โตมโหฬาร อาจใหญ่ที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้ แค่เสาโบสถ์ก็มีถึง ๑๙๖ ต้น ท่านสร้างไปได้กว่า ๘๐ เปอร์เซ็นต์แล้ว

     

หลวงพ่อสมชาย ท่านเกิดที่ ต.โพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อ วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๔๘๘ โยมบิดาชื่อ กำนันผาด ไทยเจริญ มารดาชื่อ นางจำปี ไทยเจริญ มีพี่น้องร่วมบิดา ๖ คน หลวงพ่อเป็นคนสุดท้อง ที่บ้านมีอาชีพค้าขาย หลังจากเรียนหนังสือจบแล้ว ก็ได้เข้าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ อยู่ที่ว่าการ อ.บางน้ำเปรี้ยว ได้ ๓ ปี บิดา-มารดาอยากให้บวชทดแทนคุณ ท่านจึงเข้าอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๐ ได้รับฉายาว่า พุทธสโร รับใช้พระอุปัชฌาย์ที่ วัดบางน้ำเปรี้ยวได้ ๗ วัน จึงย้ายไปจำพรรษาที่ วัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ (คลอง ๒๐) เพื่ออยู่กับ หลวงพ่อแจ๋ ติสสโร เกจิอาจารย์ขลัง ซึ่งหลวงพ่อสมชายท่านเลื่อมใสศรัทธาหลวงพ่อแจ๋ ซึ่งเป็นผู้สืบสายพุทธาคมของ หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน มาตั้งแต่ก่อนบวช จึงพูดได้ว่าท่านมีพุทธาคมสูงส่ง ทำของได้ขลัง ด้วยมีจิตใจเข้มแข็งปฏิบัติได้จริง นอกจากมีวิชาดีแล้ว ตัวท่านเองยังปฏิบัติดีปฏิบัติชอบด้วย จึงทำให้ปัจจุบัน พระปิดตารุ่นแรก เนื้อผงคลุกรักของท่านมีความขลังควรค่าแก่การบูชาสักการะยิ่งระหว่างจำพรรษาอยู่ วัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ หลวงพ่อสมชาย ก็ตั้งใจศึกษาพระปริยัติธรรมจนแตกฉาน สอบได้นักธรรมชั้นเอกในเวลาไม่นาน จากนั้นจึงหันไปศึกษาพุทธาคม จนสามารถจารอักขระเลขยันต์ได้คล่องแคล่ว งดงาม เป็นที่ไว้วางใจของหลวงพ่อแจ๋ ให้จารตะกรุดแทนท่าน หลวงพ่อสมชาย ได้ศึกษาวิชาเวทมนต์คาถาอาคมที่ หลวงพ่อแจ๋ ได้ศึกษามากับ หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน จนหมดสิ้น ทั้งวิชาจากหลวงพ่อ พระครูญาณรังษีมุนีวงษา (ทำ) วัดสัมปทวน หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว ซึ่งได้รับวิชาตกทอดมาจาก หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก หลวงพ่อถึก วัดสนามช้าง ได้แก่วิชา นะเก้ายอด เป็นต้น  แล้วไปศึกษาวิชาพุทธาคมกับ พระครูนนทกิจนิเทศ (กี๋) วัดหูช้าง นนทบุรี จากนั้นท่านจึงธุดงค์รอนแรมไปในภาคเหนือ เพื่อศึกษาและฝึกฝนพุทธาคมจนได้ไปพบกับ หลวงพ่อสิม วัดถ้ำผาปล่อง จึงอยู่จำพรรษาฝึกฝนวิปัสสนากรรมฐาน(ที่มา : ย่อจาก ลานโพธิ์ ฉบับที่ 1076 เดือนสิงหาคม 2554

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.lanpothai.com/)