วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เที่ยววัดกับขุนอภัยภักดี ทริป #๓๘ (กราบอริยะสงฆ์ลุ่มน้ำป่าสัก หลวงพ่อย้อย วัดอัมพะวัน จ.สระบุรี)


สวัสดีครับวันนี้ขุนอภัยภักดีจะพาไปกราบพระอริยะสงฆ์แห่งลุ่มน้ำป่าสัก จากคำบอกเล่าของไกด์กิตติมศักดิ์ ว่าท่านศักดิ์สิทธิ์มากๆ ท่านมรณภาพไปนานแล้วแต่สังขารของท่านไม่เน่าเปื่อยเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง วัดนี้เงียบสงบมากๆ หากเราเข้าวัดไปโดยผ่านซุ้มประตูวัดก็จะพบกับอุโบสถหลังใหม่อยู่ทางด้านซ้าย และที่มองเห็นตรงหน้าเป็นวิหารเล็กๆ ที่นั้นแหละครับคือที่หมายของเราเพราะภานในจะมีร่างของหลวงพ่ออยู่ภานในโลงแก้วที่ทางวัดจัดใส่ร่างของหลวงพ่อไว้ กราบหลวงพ่อเสร็จเดินไปด้านหลังจะพบกับอุโบสถหลังเก่าเป็นอาคารก่ออิฐถือปนูหลังคาเครื่องไม้มุงด้วยกระเบื้องดินเผาภายในมีพระประธานอยู่สามองค์  เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นประทับนั่งปางมารวิชัยหรือสดุ้งมารสามองค์ด้านขวาเป็นหอระฆัง ส่วนตรงกลางเป็นกุฏิท่านเจ้าอาวาสเดิมคงเป็นหอสวดมนต์ได้สนทนากับท่านเจ้าอาวาสท่านบอกว่าปกติสมัยหลวงพ่อย้อยท่านยังมีชีวิตอยู่วัดนี้ก็เงียบสงบมากเพราะหลวงพ่อท่านสั่งไว้ไม่ให้ประกาศหรือโฆษณาใดๆเกี่ยวกับท่าน ทุกคนในวัดก็เชื่อฟังท่านครับแต่มาระยะหลังๆนี้มีคนทราบข่าวกันปากต่อปากจึงมีคนมาวัดมากขึ้นโดยเฉพาะวันที่ 19 ธันวาคม ซึ่งตรงกับวันที่หลวงพ่อมรณภาพคนจะเยอะมากๆ หลวงพ่อท่านมรณะมา 29 ปีแล้ว หลวงพ่อเป็นพระที่มีวิชาอาคมเข้มขลัง ใครเดือดร้อนอะไรก็ไปจุดธูปบอกท่านแล้วอธิษฐานว่ากันว่าส่วนมากจะได้ดังที่ขอแทบทุกคนจากประวัติที่พอจะค้นหาได้มีดังนี้
หลวงพ่อย้อย ปุญญมี ฉายา ปุญญมี ชื่อเดิม ย้อย นามสกุลชาติภูมิ เกิดวันที่ 1 กรกฎาคม 2435 ปีมะโรง ที่บ้านโรงเหล้า (บ้านอัมพวัน) หมู่ที่ 3 ตำบลศาลารีไทย อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี เชื้อชาติไทยสัญชาติไทย บิดาชื่อ นายนิ่ม เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย ศาสนาพุทธ มารดาชื่อ นางแป๋ เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย ศาสนาพุทธก่อนบรรพชาอุปสมบท อยู่บ้านโรงเหล้า(บ้านอัมพวัน) หมู่ที่ 3 ตำบลศาลารีไทย อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี



การศึกษา ประถมปีที่ 4 พ.ศ.2452 ที่วัดวังแดงเหนือบรรพชาที่วัดอัมพวัน อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี เมื่อ พ.ศ. 2452 อายุ 16 ปี เศษ มีพระครูสา วัดวังแดงเหนือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระอุปัชฌาย์
อุปสมบทที่วัดอัมพวัน อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2456 อายุ 21 ปีมีพระครูสา วัดวังแดงเหนือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระใบฎีกาโป๋ วัดวังแดงเหนือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระกรรมวาจาจารย์มีพระใบฎีกานาค วัดสมุหประดิษฐาราม อำเภอเสาไห้ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ตำแหน่งตามพรบ.คณะสงฆ์ ตำแหน่ง พระอธิการเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน เมื่อ พ.ศ.2461 อายุ 26 ปี มรณภาพ วันที่ 19 ธันวาคม 2525 รวมอายุ 90 ปี รวม 72 พรรษา


สำหรับประวัติหลวงพ่อย้อย ปุญญมี นั้น เป็นที่น่าเสียดายที่ก่อนหน้านี้ไม่มีผู้เขียนที่สามารถจะเขียนได้อย่างละเอียดได้ เพราะว่าลูกศิษย์หลายท่านที่จะนำไปทำประวัติรวมทั้งคุณไพบูลย์ ชมภูทัพ ผู้เขียนเรื่องของดีวัดอัมพวัน ในหนังสือพระธาตุเจติยานุสรณ์ ของวัดอัมพวัน ได้ไปสอบถามกับหลวงพ่อย้อยด้วยตัวเอง 2-3 ครั้งท่านเพียงแต่บอกว่าไม่ต้องเอาไปลงหรอกทุกครั้งไป จึงเป็นเรื่องจนปัญญาที่จะหาประวัติอย่างละเอียดของท่านได้ เท่าที่ค้นหาได้จากทะเบียนพระภิกษุวัดอัมพวันตามรายละเอียดที่ปรากฎข้างต้นนี้ อาจารย์ผู้สั่งสอนเวทย์มนต์คาถา ตำราต่างๆ ให้แก่ท่านคือ หลวงพ่อโป๋ วัดวังแดงเหนือ ที่เป็นพระพระกรรมวาจาจารย์ ตอนที่ท่านอุปสมบทนั่นเองหลวงพ่อย้อยเป็นพระภิกษุผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ ที่เจริญด้วยเมตตาอย่างยิ่ง ผู้ที่ได้พบท่านมาแล้วคงจะได้เคยเห็นว่าเวลาท่านฉันอาหารไม่ว่าเช้าหรือเพลแทบจะกล่าวได้ว่าทุกเวลาที่ท่านฉันจะมีสุนัขและแมวล้อมรอบตัวท่านและสำรับกับข้าวของท่านจำนวนมาก ท่านไม่เคยไล่ให้หนีออกไปเลย ท่านฉันอาหารไป ท่านก็ให้อาหารสุนัขแมวไปด้วยทุกครั้ง ยุงที่กัดท่านก็ไม่เคยที่กัดท่านไม่เคยถูกไล่หรือตี มีลูกศิษย์จะตีให้ก็ไม่ยอมให้ตีบอกแต่เพียงว่าเขาอิ่มแล้วเขาก็ไป


คุณลักษณะพิเศษอีกอย่างหนึ่งของท่านก็คือท่านไม่เคยขัดศรัทธาของผู้ที่ไปหาท่าน ต้องการให้ท่านทำ หรือช่วยอย่างไร ท่านทำให้ทุกอย่าง ท่านมีวิชาอาคมเวทย์มนต์คาถาแต่ใช้ในทางที่ถูกเท่านั้น ช่วยเหลือ,ป้องกันภัยไม่ว่าจะลงกระหม่อม ทำน้ำมนต์อาบให้ หรือปลุกเสกเครื่องลางของขลังไว้ป้องกันตัวจากภัย อันตรายต่างๆ ที่ถูกผู้อื่นทำใส่ หรือที่เรียกว่าคุณไสยท่านเป็นทำให้ทั้งนั้นไม่เคยขัดคำขอร้องของผู้ไปหาเลย อีกประการหนึ่งท่านมีประสาทหูเสีย (หูหนวก) จึงมีสมาธิดีกว่าปกติ เพราะไม่สามารถฟังเสียงรบกวนจากบริเวณใกล้เคียงของขลังของท่านจึงศักดิ์สิทธิ์ มีพุทธานุภาพมาก แม้กระทั่งว่าท่านเจ้าคุณพระมหานายก วัดบวรนิเวศ ลูกศิษย์ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกสมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน เล่าให้ฟังว่าท่านสมเด็จพระญาณสังวร ทรงมีและคาดตระกรุดหลวงพ่อย้อยที่เอวท่านประจำ ปรากฏการณ์ ผลศักดิ์ สิทธิ์และอภินิหารเป็นที่เลื่องลือในบรรดาลูกศิษย์และคนทั่วไปที่ได้เคยมีประสบการณ์มาแล้ว
ปัจจุบันพระครูสุวิมลธรรมรัต (พระอาจารย์บัณฑิต) เจ้าอาวาส องค์ปัจจุบันท่านป็นพระนักพัฒนา ที่ทุ่มเท  กาย ใจ และระดมสมองพัฒนาวัดและวิหารหลวงพ่อย้อย หลังใหม่ ซึ่งทางวัดยังสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อย้อยอยู่นะครับ ว่างๆเชิญท่านนักสะสมทั้งหลายแวะเวียนไปกราบหลวงพ่อทั้งสองรูปกันครับ



สุดท้ายนี้ขอกราบอาราธนาสรีระสังขารของหลวงพ่อท่านมาเป็นศิริมงคลแด่ท่านพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ขอให้ท่านทั้งหลายหมั่นทำบุญกุศลสร้างกรรมดี เสียแต่ในชาตินี้ที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ สิ่งดีๆก็จะยังคงอยู่จนชั่วลูกหลาน เหมือนกับที่หลวงพ่อท่านได้กระทำไว้แล้ว ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมกระทู้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น