วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2558

เที่ยววัดกับขุนอภัยภักดี ทริป # ๒๗(จิตรกรรมฝาผนังวัดขนอนเหนือ อ.บางปะอิน อยุธยา)


    
วันนี้ขุนอภัยภักดีกลับมาทำหน้าที่อีกคำรบหนึ่งและจะพาชมจิตรกรรมฝาผนังที่วัดขนอนเหนือ ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ก่อนอื่นต้องขออภัยภาพอาจไม่ชัดมากเพราะทริปนี้ถือก้ลองเล็กลงไป ณ  แดนดินถิ่นนี้ เดิมเป็นสถานที่ ตั้งด่านเก็บภาษีอากร และตรวจคนเข้าเมือง ชื่อด่านคลองห้วยกรด เป็นสถานที่ซึ่งเล่าขานสืบต่อกันมาว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระราชทานให้นายประทุม ชาวมอญ ซึ่งเป็นพระสหายเมื่อครั้งอยู่ประเทศพม่าและได้ร่วมช่วยกู้อิสรภาพ เมื่อพุทธศักราช 2127



ต่อมาพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้นายประทุม เป็นพระยา สีหราชเดโช เป็นนายด่านใหญ่ ที่ทำการด่านเดิมอยู่บริเวณคณะกลางวัดขนอนเหนือ พระยาสีหราชเดโช  ได้สร้างวัดประทุมสิงขร  ใช้เวลาสร้างวัดสืบทอดกันเป็นระยะเวลานาน จนสร้างแล้วเสร็จเมื่อ พุทธศักราช 2206 และได้วิสุงคามสีมา ประมาณพุทธ-ศักราช  2225  ต่อมาภายหลัง  เมื่อประมาณพุทธศักราช     2327 สร้างวัดแก้วราชธารามขนอนใต้ชาวบ้านจึงเติมชื่อวัดประทุมสิงขรขนอนเหนือและใช้ชื่อวัดขนอนเหนือ มาจนปัจจุบัน



ที่วัดขนอนเหนือ มีจิตกรรมฝาผนังเป็นศิลปะวัตถุที่ล้ำค่าเป็นภาพพุทธประวัติที่สวยงาม  ครั้งสมัยอยุธยา ได้ปรับปรุงซ่อมแซมภาพจิตรกรรม เมื่อสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์สำหรับการชมจิตกรรมฝาผนังแต่ละที่โดยส่วนตัวผมแล้วนอกจากความสวยงานด้านฝ๊มือช่างและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยนั้นๆแเหมือนคนทั่วๆไปแล้ว ยังมีการมองหาส่วนเล็กๆที่ช่างจะพยายามแอบใส่มุขตลกเล็กๆน้อยๆไว้ ที่ใดที่หนึ่งแล้วแต่สถานที่และจินตนาการของช่าง





นอกจากภาพจิตรกรรมที่ทรงคุณค่าแล้ว ที่วัดฯยังมีพระพุทธรูปที่เคยเป็นข่าวมาแล้วช่วงหนึ่งคือ พระพุทธรูปจริยาปางพยาบาลภิกษุอาพาธ ตั้งอยู่ข้างอุโบสถของวัดประดิษฐานอยู่บนซุ้มปูนปั้นทรงไทย ยกฐานสูงจากพื้นดินประมาณ 180 ซม. ลักษณะของพระพุทธรูปอยู่ในท่านั่ง เข่าขวาตั้งชัน สูงประมาณ 2 เมตร ไว้ผมมวย มีลักษณะพระพักตร์อ่อนหวานคล้ายกับเจ้าแม่กวนอิม ในอุ้งมือมีรูปปั้นพระสงฆ์นอนอยู่ในลักษณะคล้ายกับอาพาธ หรือนอนป่วย  เมื่อ 40 ปีที่แล้ว พระครูพิศาลวิมลกิจ อดีตเจ้าอาวาสวัดขนอนเหนือที่มรณภาพไปแล้ว ได้นำภาพถ่ายพระพุทธรูปปางอาพาธมาให้ช่างปั้นดู และให้ปั้นให้เหมือนกัน เพื่อให้ชาวบ้านได้สักการบูชา ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บจนถึงทุกวันนี้ วันนี้ก็ขอพอแค่นี้ก่อน





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น