สวัสดีสมาชิกทุกๆท่านในครั้งนี้ผมต้องเดินทางไปร่วมงานขาวดำของคุณป้าที่มีพระคุณกับครอบครัวของผมมาตั้งแต่สมัยพ่อและแม่ผมแล้วซึ่งตอนนั้นผมคงจะยังเด็กมากๆจนไม่สามารถจำอะไรได้เลยแต่ทราบจากคำบอกเล่าของแม่เท่านั้นว่าท่านมีพระคุณกับครอบครัวผม
ในกาลครั้งนี้ผมและครอบครัวใช้ระยะทางในการเดินทางถึง 2200 กว่ากิโลเพื่อร่วมส่งดวงวิญญาณของท่านไปสู่ภพภูมิที่ดีและเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ผมพึงกระทำได้เป็นการตอบแทนท่านได้
ด้วยความตั้งใจที่เต็มเปี่ยมแม้ว่าผมจะเดินทางไกลขนาดนี้มาเกือบสิบปีแต่ผมไม่มีความรู้สึกเหนื่อยล้าเอาเสียเลย
หลังจากเสร็จสิ้นงานแล้วผมจึงหาเวลาให้ตัวเองตามแบบอย่างของผมคือหาวัดวาเที่ยวและในครั้งนี้ผมเองก็โชคดีที่วัดที่จัดงานคือวัดพระทองหรือวัดพระผุดนี้เอง
วัดพระทองหรือพระผุดที่ตั้งอยู่ ณ อำเภอถลางเป็นดินแดนประวัติศาสตร์อีกที่หนึ่งที่มีวีระสตรีอย่างคุณหญิงจันและคุณหญิงมุกหรือท้าวเทพกระษัตรี(เกิดประมาณปี2278 หรือ 2280 -ตายปีประมาณปี 2336) ท้าวศรีสุนทรเป็นวีรสตรีไทยที่ป้องกันเมืองถลางให้พ้นจากข้าศึกได้ในสงครามเก้าทัพ สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวถลางที่เล่าต่อ ๆ ถ่ายทอดต่อกันมาหลายชั่วอายุคน นอกจากเรื่องประวัติของคุณหญิงจันและคุณหญิงมุกแล้วที่นี่ยังมีสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือพระผุด
พระผุด (พระที่ผุดขึ้น) หรือ “พระทอง” ตามประวัติและคำบอกเล่าต่อๆกันมาองค์พระผุดนี้มิได้มีใครไปสร้างพระเลย โดยพระพุทธรูปองค์ขนาดใหญ่ได้ผุดขึ้นมาจากพื้นดิน ณ วัดพระทอง ในอำเภอถลาง ซึ่งวัดเก่าเเก่ประจำจังหวัดภูเก็ต ตำนานของพระผุด เรื่องราวเล่าขานตำนานพระมีอยู่ว่ามีเด็กชายลูกชาวนาคนหนึ่งจูงควายไปเลี้ยงกลางทุ่งนา แต่หากิ่งไม้ไม่เจอ เพราะอยากหาที่ผูกเชือกสำหรับเลี้ยงควาย กิ่งไม้เล็กขนาดเล็กมาก ที่เคยผูกเป็นประจำ ถูกน้ำฝนตกลงมาพัดหายไป พักหนึ่งเด็กคนนี้เห็นของประหลาดสิ่งหนึ่งมีโคลนตมพอกอยู่ มีลักษณะเหมือนตอไม้ขนาดใหญ่ผุดขึ้นมาเลยนำเชือกคล้องควายไปผูกไว้แล้วก็กลับมาบ้าน พอเด็กถึงบ้าน เด็กชายคนนั้นก็เกิดอาการเป็นลมเสียชีวิต พ่อแม่ก็จัดการกับศพเด็กแล้วออกไปดูควายที่ผูกไว้ พอไปถึงที่ที่เด็กผูกควายไว้ สิ่งที่เห็นและสร้างความประหลาดใจได้ชัดเจนทั้งสองตาเลย คือ เห็นควายนอนตายอยู่ ใกล้กับวัตถุอย่างหนึ่ง พวกเขาเกิดความรู้สึกกลัวรีบตัดเชือกผูกควายออกแล้วช่วยกันนำควายไปฝัง
ตกตอนกลางคืนเมื่อสามีภรรยาง่วงและหลับไปนั้นพ่อของเด็กชายที่ตายก็ฝัน ว่ามีคนมาบอกว่า ที่เด็กและควายต้องตายนั้นเป็นเพราะเด็กได้นำเชือกควายไปผูกไว้กับเกศพระพุทธรูป รุ่งเช้าพ่อกับแม่ของเด็กคนที่ตายไปนี้ก็ชวน เพื่อนบ้านให้ไปยังที่ริมคลองที่เด็กนำควายไปผูกไว้ เมื่อเห็นวัตถุแปลก ๆ ต่างคนต่างก็เอาน้ำมาล้างทำความสะอาดจึงเห็นเป็นลักษณะเหมือนเกศพระพุทธรูปเหลืองอร่ามเป็นทองคำ ชาวบ้านจึงแตกตื่นพากันมากราบไหว้บูชา แล้วได้ไปบอกกล่าวกับเจ้าเมืองถลางเจ้าเมืองทรงทราบก็รับสั่งให้ทำการขุดมาขุดอย่างไรก็ไม่สามารถขุดได้เพราะมีตัวต่อตัวแตนจำนวนมากนับพันนับหมื่นตัวบินขึ้นมาจากใต้พื้นดิน ไล่ต่อยผู้คนที่ขุด ส่วนพวกที่ไม่ได้ขุดพวกต่อแตนมิได้ทำอันตรายเลยแม้แต่น้อย
ปริศนานี้เจ้าอาวาสต้องแก้ให้ได้
ถ้าแก้ไม่ได้จะอยู่วัดได้ไม่นานแต่ไม่มีใครแก้ได้จนลือกันว่า
"วัดพระผุดกินสมภาร" นี่คือตำนานของพระผุดที่วัดพระทองภูเก็ต
หากสมาชิกมีโอกาสที่เดินทางไปภูเก็ตนอกจากท่านจะได้ท่องเที่ยวชมทะเลและธรรมชาติที่งดงามของภูเก็ตแล้วอย่าลืมที่จะไปไห้พระผุดที่วัดทองเพื่อเป็นศิริมงคลกับชีวิตและความแคล้วคลาดปลอดภัยในการเดินทางนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น