:
เที่ยววัดกับขุนอภัยภักดี ทริป # ๑๗
(หลวงพ่อธรรมจักร วัดธรรมามูลวรวิหาร ชัยนาท )
วันนี้ขุนอภัยภักดี
จะพาไปไหว้หลวงพ่อธรรมจักร ที่วัดธรรมามูล ชัยนาท
ซึ่งเป็นวัดที่อยู่บนเนินเขาใกล้ๆแม่น้ำ ก่อนที่จะข้ามไปวัดปากคลองมะขามเฒ่า
เรามาทำความรู้จักประวัติของวัดและหลวงพ่อกัน
หลวงพ่อธรรมจักร
เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองชัยนาท ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารเชิงเขา
วัดธรรมามูลวรวิหาร ต.ธรรมมูล อ.เมือง จ.ชัยนาท
เป็นศิลปะประยุกต์ช่างสมัยเชียงแสนตอนปลายถึงสุโขทัยตอนต้นผสมกับสมัยอยุธยา
มีพุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ประทับยืนบนฐานดอกบัว
พระหัตถ์ขวายกขึ้นเสมอพระอุระ หันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ สูงประมาณ 4.50 เมตร
กลางฝ่าพระหัตถ์มีรอย "ธรรมจักร ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว
ซึ่งเป็นที่มาของชื่อพระพุทธรูปองค์นี้
ประวัติและตำนานว่ากันว่าเป็นพระลอยน้ำมาอีกองค์หลวงพ่อธรรมจักร
วัดธรรมามูลวรวิหาร ไม่พบหลักฐานทางประวัติอย่างแน่ชัด มีเพียงตำนานเล่าขานสืบต่อกันมาว่า
มีผู้พบพระพุทธรูปลอยตามแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมกันถึง 3 องค์ ได้แก่ หลวงพ่อโสธร
(วัดโสธรวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา) หลวงพ่อวัดบ้านแหลม (วัดบ้านแหลม จ.สมุทรสงคราม)
และหลวงพ่อธรรมจักร (วัดธรรมามูลวรวิหาร จ.ชัยนาท)
บ้างกล่าวว่ามีพระพุทธรูปอีกองค์ คือ หลวงพ่อวัดไร่ขิง ลอยตามมาด้วย
พอถึงรุ่งเช้า
ชาวบ้านต่างหาพระพุทธรูปไม่พบ ต่างคิดว่าพระพุทธรูปได้หลุดลอยน้ำไปแล้ว
จึงแยกย้ายกันกลับ
ปรากฏว่าในขณะนั้นได้มีผู้พบเห็นพระพุทธรูปองค์ที่ลอยน้ำได้มาประดิษฐานปิด
ทางเข้าประตูวิหารวัดธรรมามูล เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง จึงได้เรียกชาวบ้านที่อยู่ด้านล่างให้ขึ้นไปดู
ชาวบ้านจึงได้ร่วมแรงร่วมใจก่อสร้างต่อเติมพระวิหารออกมาอีกช่วงหนึ่ง รวมเป็น 3
ช่วง
จากคำบอกเล่า
เมื่อองค์หลวงพ่อประดิษฐ์อยู่ได้ 3 วัน ก็ได้หายไปจากพระวิหาร
และกลับมาประดิษฐานดังเดิมโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งมีโคลนและจอกแหนติดเปื้อนมาด้วย
ชาวบ้านจึงได้นำโซ่มาล่ามผูกไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้หลวงพ่อหายไปอีก
ต่อมามีคนต่างถิ่นล่องแพมาจากทางเหนือ เพื่อตามหาพระพุทธรูป
เมื่อมาถึงท่าน้ำหน้าวัดธรรมามูล ได้พบพระพุทธรูปที่ตามหาอยู่
ขณะนั้นเป็นช่วงพลบค่ำ ชายผู้นั้นจึงได้ขออาศัยนอนอยู่ที่วัด เพื่อรอเวลาอัญเชิญองค์หลวงพ่อกลับ
ณ วัดแห่งเดิม ชายคนนั้น ได้ฝันว่า หลวงพ่อไม่ขอกลับไปด้วย จะขออยู่ที่วัดแห่ง
ครั้นรุ่งเช้า
จึงได้กราบลาท่านสมภารเดินทางกลับบ้าน และได้ขอถอดเอา "จักร"
ที่ฝ่าพระหัตถ์องค์หลวงพ่อกลับไป นับแต่นั้นมาหลวงพ่อธรรมจักรก็ไม่หายไปไหนอีก
ชาวบ้านจึงได้นำโซ่ที่ล่ามออกและได้ร่วมกันสร้าง "จักร"
ขึ้นใหม่และจัดให้มีงานสมโภชต่อเนื่องทุกปี จนถึงปัจจุบัน ร.ศ.120, 125 และ 127 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
ได้เสด็จมาสักการะหลวงพ่อธรรมจักร ถึง 3 ครั้ง ดังมีข้อความปรากฏในหนังสือประวัติศาสตร์
ประพาสต้นมีพระราชหัตถเลขาฉบับที่ 8 เดือนตุลาคม ร.ศ.120 ถึง
กรมหลวงเทวะวงษ์วโรปการ ตามความว่า "เวลาเช้า 3 โมงเศษ ถึงวัดธรรมามูล
ขึ้นเขามีราษฎรอยู่มาก พระวิหารใหญ่หลังคาพังทลายลงทั้งแถบ จำเป็นต้องปฏิสังขรณ์
เมื่อนมัสการพระแจกเสมาราษฎรแล้วลงเรือเดินทางต่อมาอีก" อนึ่ง
ในการที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จมานั้น สันนิษฐานว่า
สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระพันปีหลวง ตามเสด็จมาด้วย
โดยพบแผ่นจารึกหินอ่อนที่ด้านบนเสาต้นกลางของซุ้มบันไดที่ติดกับลานพระวิหาร หลวงพ่อธรรมจักร
จารึกเกี่ยวกับวัน เดือน ปี และบุคคลที่บริจาค โดยปรากฏเป็นพระนามแรก
ทรงบริจาคเงินจำนวน 200 บาท
บุคคลที่สำคัญอีกท่านหนึ่งที่ได้ตามเสด็จมานมัสการ
คือ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ โดยมีพระนิพนธ์ไว้ในหนังสือสาสน์สมเด็จ ลงวันที่
12 มกราคม พ.ศ.2481
เป็นลายพระหัตถ์ที่ทรงมีถึงสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์
ความตอนหนึ่งว่า "เมื่อปีแรก หม่อมฉันเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยใน พ.ศ.2453
ขึ้นไปตรวจราชการหัวเมืองเหนือเมื่อฤดูน้ำ ได้พระราชทานกฐินหลวงไปทอดที่
วัดธรรมมามูลด้วย หม่อมฉันไปพักแรมอยู่ที่ชัยนาท รุ่งเช้าออกจากเมืองชัยนาทขึ้นไปบนเขาธรรมมามูล"
ทั้งนี้ วัดธรรมามูลวรวิหาร จัดงานประเพณีนมัสการปิดทองหลวงพ่อธรรมจักร
อันเป็นงานประจำปี กำหนดขึ้นปีละ 2 ครั้ง คือ ในเดือน 6 ระหว่างขึ้น 4-8 ค่ำ
และเดือน 11 ระหว่าง แรม 4-8 ค่ำ รวมครั้งละ 5 วัน 5 คืน ส่วนการเดินทางนมัสการองค์หลวงพ่อธรรมจักร
วัดธรรมามูลวรวิหาร สามารถใช้เส้นทางตามถนนพหลโยธินสายเก่า ชัยนาท-นครสวรรค์
เลยสี่แยกแขวงการทางชัยนาท ประมาณ 8 กิโลเมตร จะแลเห็นเขาธรรมามูลอยู่ทางซ้ายมือ
มีป้ายชื่อวัดแสดงอยู่ ให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนข้ามเขาอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร
คอลัมน์
เดินสายไหว้พระพุทธ ชูชีพ ด้วงช้าง ที่มา... ฉบับที่ 6716 ข่าวสดรายวัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น