วันนี้จะพาไปไหว้พระนอนวัดสะตือ
โดยวัดสะตือนี้สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ปี พ.ศ.2400 โดยหลวงพ่อโต หรือ
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ
จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มาของชื่อวัดนี้
เนื่องจากสมัยก่อนบริเวณมีต้นสะตือใหญ่เป็นสัญลักษณ์ เลยนำมาตั้งเป็นชื่อวัด
ภายในมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ประดิษฐานทางทิศใต้ของวัด องค์พระยาว 25 วา
เชื่อหรือไม่ว่าหลวงพ่อโตท่านเกิดที่นี่ มารดาของท่านได้ให้กำเนิดท่าน ณ
บนเรือที่จอดอยู่ในแม่น้ำป่าสักที่ทอดตัวทางด้านหลังของวัด
อภินิหาริย์หลวงพ่อโต
วัดสะตือ จ.พระนครศรีอยุธยา ปฐมตำนานการสร้างพระพุทธไสยาสน์ได้กล่าวเอาไว้ว่า
พระพุทธไสยาสน์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมีดังที่จะกล่าวต่อไปนี้…
-พระพุทธไสยาสน์กลางแจ้ง
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
-พระพุทธไสยาสน์
วัดพระนอนจักสีห์ จังหวัดสิงห์บุรี
เราจะเห็นว่าจังหวัดสิงห์บุรีกับจังหวัดอยุธยามีความใกล้ชิดกันมาก
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนบธรรมเนียมและวัฒนะธรรมประจำท้องถิ่น รวมไปถึงงานบุญต่างๆ
จังหวัดทั้งสองมีความละม้ายคล้ายกันมากทีเดียว
พระพุทธไสยาสน์กลางแจ้งที่มีขนาดยาวที่สุด ประดิษฐานอยู่ที่วัดสะตือ อ.ท่าเรือ
จ.พระนครศรีอยุธยา สร้างโดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี
อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆษิตตาราม กทม.
เจ้าประคุณสมเด็จฯ
ถึงแก่มรณภาพในแผ่นดินรัชกาลที่ 5 เมื่อวันเสาร์ เดือน 8
แรม 2 ค่ำ ปีวอก จัดวาศกจุลศักราช 1234
ตรงกับวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2415 เวลา 24.00 น. บนศาลาใหญ่วัดบางขุนพรหมใน
(วัดอินทรวิหาร) สิริรวมอายุ 84 พรรษาที่ 64
ในปี พ.ศ. 2413 ก่อนมรณภาพ 3 ปี เจ้าประคุณสมเด็จฯ
ได้มาทำการก่อสร้างพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูนปางพุทธไสยาสน์ริมแม่น้ำป่าสัก ณ
บ้านที่ถือกำเนิด ปัจจุบันคือ วัดสะตือ ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา มีความยาว
25 วา กว้าง 4 วา สูง 8 วา มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ซ่อมแซม 4 ครั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อ พ.ศ. 2465 โดยหลวงพ่ออุปัชฌาย์บัตร จันทโชติ
อดีตเจ้าอาวาสวัดสะตือ ร่วมกับชาวบ้าน ครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ.
2499 จอมพล ป พิบูลสาคราม
นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้เดินทางมานมัสการหลวงพ่อโต
เห็นว่าองค์หลวงพ่อชำรุดทรุดโทรมมาก จึงได้ทำการบูรณะอยู่ 3
เดือน 25 วันจึงแล้วเสร็จ ครั้งที่ 3
เมื่อ พ.ศ. 2531 โดยพระครูพุทธไสยาภิบาล (หมึก)
อดีตเจ้าอาวาส ได้ร่วมกับชาวบ้านทำการบูรณะอยู่ 3 เดือน 25 วัน จึงแล้วเสร็จ ครั้งที่ 4 เมื่อ พ.ศ.2540 โดยพระอธิการทองคำ คัมภีรปัญโญ เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน
ได้ร่วมกับชาวบ้านทำการบูรณะและทาสีใหม่
ทางวัดสะตือได้จัดให้มีงานเทศกาล (งานประจำปี)
เพื่อปิดทององค์หลวงพ่อโตเป็นประจำทุกปีๆ ละ 2 ครั้ง
คือกลางเดือน 5 และกลางเดือน 12 พระพุทธไสยาสน์
หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่มาก และมีอายุการสร้างที่ยาวนาน
มีประชาชนจากทั่วสารทิศ เดินทางมานมัสการกราบไหว้ มีกรขอพรและโชคลาภต่างๆ
ซึ่งมักประสบผลตามที่ตั้งใจขอไว้
หลวงพ่อจะช่วยดลบันดาลอภิบาลรักษาให้ท่านที่เดินทางมานมัสการ
มีความอยู่เย็นเป็นสุข มีความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลแก่ตัวท่านและครอบครัว
วัดสะตือ (เดิมชื่อ
"วัดท่างาม" ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดสะตือ"
เพรามีสะตือใหญ่ขึ้นอยู่ริมฝั่งแม่น้ำตรงหน้าวัด)
หากชาวดอกไม้แดงมีโอกาสผ่านไปทางท่าเรือ แนะนำให้แวะไหว้พระนอนขอพรที่วัดครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น