สุริยนเย็นสนธยาย่ำ
ประทับลำเรือเรียงเคียงขนาน
เขาเรียกวัดแม่นางปลื้มลืมรำคาญ ใครขนานชื่อหนอได้ต่อมา
วันนี้จะพาไปเที่ยวอยุธยาไหว้พระที่วัดแม่นางปลื้ม
เดิมชาวบ้านเรียกว่า " วัดนางปลื้ม" หรือ "วัดสมปลื้ม"
สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นประมาณ พ.ศ.1920 บริเวณที่ตั้งวัดเคยเป็นที่ตั้งค่ายของพม่า
ซึ่งยกมาล้อมกรุงศรีอยุธยาหลายครั้ง ยังมีเนินค่ายปรากฏอยู่ชาวบ้านเรียกว่า
"โคกพม่า"ลักษณะรูปแบบศิลปกรรม จากรูปแบบเจดีย์ประธานของวัด
สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างสมัยเดียวกับวัดธรรมิกราช และวัดมเหยงคณะ กล่าวคือ
ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงกลมองค์ระฆังคว่ำแบบเจดีย์ทรงลังกา
ตั้งอยู่บนฐานสิงห์ล้อมเช่นเดียวกัน และยังประดับตกแต่งลวดลายปูนปั้นที่หน้าบันพระวิหารด้วย
ภายในวัดมีเจดีย์ทรงระฆังที่สร้างเป็นประธาน
สร้างอยู่บนฐานสูง
ฐานล่างมีสิงห์ปูนปั้นล้อมรอบลักษณะเป็นฐานบัวประดับด้วยลวดบัวลูกฟังลายบัวแบบนี้สืบทอดมาจากศิลปะเขมร-ลพบุรี
ความแตกต่างอยู่ที่ฐานบัวที่ค่อนข้างสูงทำให้มีที่ว่างที่ท้องไม้มากและลวดบัวลูกฟักที่ท้องไม้มีขนาดเล็กและมี
2
เส้น ซึ่งเป็นลักษณะที่วิวัฒนาการมาจากสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น
กำหนดอายุราวปลายพุทธศตวรรษที่ 21 ส่วนวิหารมีหลักฐานว่าได้รับการปฏิสังขรณ์ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ทั้งนี้
พิจารณาจากลวดลายปูนปั้นที่หน้าบันด้านหน้าเป็นลวดลายที่ได้อิทธิพลศิลปะจีน
นิยมกันอยู่ราวสมัยรัชกาลที่ 3 ที่วิหารหลังนี้ยังมีหน้าบันแกะสลักไม้ฝีมือช่างรัตนโกสินทร์คงอยู่ที่หน้าบันด้านหลัง
ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา
ภายในวัดมีหลวงพ่อขาว
"พระพุทธนิมิตมงคลศรีรัตน์ไตร" เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มักมีผู้คนแวะมาสักการะขอพระเสริมสิริมงคลและบนบาน
มักจะสัมฤทธิ์ผลทุกราย แต่ละรายมาแก้บนด้วยไขต้มและพวงมาลัย เจดีย์
วิหารและองค์หลวงพ่อขาวได้รับการปฏิสังขรณ์ จากรมศิลปากรเมื่อปี 2543 จึงดูโด่ดเด่น และองค์รูปเหมือนท่านเจ้าคุณสุนทรธรรมโกศล (ท่านเจ้าคุณเกตุ)
อดีตเจ้าอาวาส
ส่วนพระประธานภายในวัดสามวิหาร
เป็นพระปูนปั้นลงรักปิดทอง ที่สวยงามอีกองค์หนึ่งในอยุธยา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น