วันนี้เอารูปเก่าๆที่เคยถ่ายมาด้วยกล้องคอมแพ็คเมื่อครั้งไปลพบุรีมาให้ชม
โดยวันนี้จจพาไปเที่ยววัดไลย์ วัดไลย์ อยู่ริมน้ำบางขาม ในเขตตำบลเขาสมอคอน
สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพเคยเสด็จไปวัดนี้
และทรงกล่าวไว้ในพระนิพนธ์เรื่องเที่ยวตามทางรถไฟไว้ว่า
"วัดไลย์อยู่ริมน้ำบางขาม พ้นเขาสมอคอนไปทางตะวันตกไม่ห่างนัก
เป็นวัดเก่าชั้นแรกตั้งกรุงศรีอยุธยา
แล้วปฏิสังขรณ์เมื่อรัชกาลสมเด็จพระเจ้าบรมโกศ ยังมีลายภาพของเก่าปั้นเรื่องทศชาติ
และเรื่องปฐมสมโพธิงามน่าดูนัก
ที่วัดไลย์นี้มีรูปพระศรีอาริย์เป็นของสำคัญอีกอย่างหนึ่งซึ่งผู้คนนับถือกันมาแต่โบราณ
เมื่อรัชกาลที่ 5 ไฟป่าไหม้วิหารรูปพระศรีอาริย์ชำรุดไป พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดฯ
ให้อัญเชิญลงมาปฏิสังขรณ์ในกรุงเทพฯ แล้วคืนกลับไปประดิษฐานอย่างเดิม
ถึงเทศกาลราษฎรยังเชิญออกแห่เป็นประเพณีเมืองมาทุกปีมิได้ขาด
โดยในวันงานชาวบ้านจะออกมาร่วมขบวนแห่เยอะมากๆ
ขบวนยาวเป็นกิโลซึ่งเมื่อครั้งที่ไปมีความรู้สึกตื้นตันกลับชาวลพบุรีมากที่ยังคงรักษาประเพณีอันดีงามนี้เอาไว้
ที่วัดนี้มีตำนานเกี่ยวกับพระพุทธรูปอยู่องค์หนึ่ง
ประชาชนเลื่อมใสศรัทธามาก คือพระศรีอาริย์
โดยมีตำนานเล่าเกี่ยวกับพระศรีอาริย์นี้ว่า ชายแก่คนหนึ่งชื่อว่ามณฑา
หมั่นทำบุญรักษาศีลภาวนาอยู่เป็นนิจ เพื่อจะได้มีอายุยืนให้ถึงสมัย
พระศรีอาริย์มาโปรดโลกมนุษย์
ก่อนจะตายแกได้สั่งญาติไว้ว่าให้เอาศพแกไว้7วันแล้วค่อยเผา เมื่อเฒ่ามณฑาตายไป
ด้วยบุญกุศลที่แกสร้างสมไว้
พระอินทร์จึงเป็นผู้มารับวิญญาณและแจ้งแกว่าพระศรีอาริย์มาเกิดเป็นมนุษย์แล้วและบวชเป็นพระอยู่วัดไลย์
แต่ไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร พระอินทร์จึงมอบดอกบัวหนึ่งดอกแก่เฒ่ามณฑา
เพื่อนำไปกราบพระศรีอาริย์ แล้วส่งวิญญาณแกกลับสู่ร่าง
เฒ่ามณฑาฟื้นขึ้นมาแล้วเล่าเรื่องไปพบพระอินทร์ให้ญาติพี่น้องฟัง และรีบไปวัดไลย์
เมื่อไปถึงพระกำลังสวดปาฏิโมกข์อยู่ในโบสถ์
แกจึงนั่งรออยู่ที่บันไดโบสถ์พร้อมกับพนมมือชูดอกบัวขึ้นถวาย
พระได้เดินออกจากโบสถ์ทีละรูป แต่ไม่มีพระองค์ใดรับดอกบัวเลย
เนื่องจากพระมองไม่เห็นดอกบัว เห็นเพียงเฒ่ามณฑานั่งพนมมืออยู่
เมื่อพระออกจากโบสถ์จนหมดแล้ว เฒ่ามณฑาจึงถามเณรว่า พระวัดนี้หมดแล้วหรือ
เณรบอกว่ายังมีอีกรูปหนึ่งชื่อพระศรี วันนี้อาพาธไม่ได้ลงโบสถ์
แกจึงรีบไปหาพระศรีที่กุฏิเพื่อถวายดอกบัว พระศรีเห็นดอกบัวก็รีบลุกขึ้นรับ
เฒ่ามนฑารู้ทันทีว่าเป็นพระศรีอาริย์ยังความปลาบปลื้มปิติให้แก่เฒ่ามณฑาเป็นอย่างยิ่ง
จึงขออยู่รับใช้พระศรีอาริย์
โดยพระศรีอาริย์ไม่ให้แกเล่าเรื่องที่พระศรีอาริย์ลงมาเกิดในโลกมนุษย์และบวชเป็นพระอยู่วัดไลย์ให้แกรู้
อยู่ต่อมาพระศรีย์ก็ถึงแก่มรณะภาพ
พระภิกษุสามเณรและประชาชนผู้มีจิตศรัทธาจึงร่วมกันหล่อรูปพระศรีอาริย์แต่ทำอย่างไรก็ไม่เสร็จ
พระอินทร์จึงแอบมาหล่อให้ในเวลาเพลที่ภิษุสามเณรไปฉันเพล
เมื่อกลับจากฉันเพลก็เห็นรูปหล่อพระศรีอาริย์เสร็จเรียบร้อยแล้วเป็นที่อัศจรรย์
ประเพณีชักพระศรีอาริย์จะมีในวันขึ้น
14 คํ่าเดือน 6 ของทุกปี
โดยทางวัดไลย์จะอัญเชิญรูปหล่อพระศรีอาริย์ประดิษฐานบนแท่นตะเฆ่
แล้วประชาชนร่วมกันชักลากตะเฆ่ ตลอดทางที่ชักพระผ่านจะมีประชาชนตั้งโรงทาน
และมีจุดหยุดเพื่อให้ประชาชนได้สรงนํ้า
ซึ่งเป็นประเพณีที่มีผู้หลั่งไหลเข้าร่วมเป็นจำนวนมากทุกปี
พุทธศาสนิกชนจะอัญเชิญรูปหล่อพระศรีอาริย์ประดิษฐานบนตระเข้ชนิดไม่มีล้อ
จัดขบวนแห่ด้วยการให้ประชาชนมาร่วมฉุดลากไปตามที่เส้นทางกำหนด
เปิดโอกาสให้ประชาชนได้สรงน้ำและกราบนมัสการปิดทองพระศรีอาริย์อย่างทั่วถึง
นอกจากพระประธานแล้วภายในยังมีพระพุทธรูปปูนปั้นอีกหลายองค์
ว่างๆเชิญชวนชาวพุทธทั้งหลายไปไหว้พระทำบุญและชื่นชมศิลปวัตถุและงานศิลป์แห่งเมืองละโว้อีกที่หนึ่งซึ่งไม่ไกลจากกรุงเทพมากนักไปเช้าเย็นกลับ
เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น